แนวทางการตรวจสอบคุณภาพฐานข้อมูลฯ ปีงบประมาณ 2555 การตรวจสอบคุณภาพฐานข้อมูล ปี 2555 ได้กำหนดไว้ 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ตรวจสอบเชิงปริมาณ ประกอบด้วย -ตรวจสอบโครงสร้างฯ ตามที่กำหนด -ตรวจสอบรหัส ว่าถูกต้องตามที่กำหนดหรือไม่ -ตรวจสอบความเชื่อมโยงเบื้องต้นส่วนที่ 2 ตรวจสอบเชิงความสัมพันธ์ของแต่ละแฟ้ม เพื่อการออกรายงาน ประกอบด้วย -ตรวจสอบความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ในแต่ละแฟ้มที่เกี่ยวข้อง -ตรวจสอบตามเงื่อนไขและเกณฑ์ที่กำหนดสำหรับการออกรายงานส่วนที่ 3 ลงพื้นที่โดยการสุ่ม เพื่อตรวจสอบ ให้คำแนะนำในการบันทึก/จัดเก็บข้อมูลฯ ร่วมกับกรมส่วนที่ 4 จัดทำเว็บไซต์ให้กับจังหวัดสำหรับติดตามในส่วนที่มีข้อมูลผิดพลาดสูง เพื่อช่วยในการบริการจัดการแก้ไขปัญหาการบันทึกข้อมูลไม่ถูกต้อง ที่ 164.115.5.62/ccreport/ด้านคุณภาพฐานข้อมูล 1.1 จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงาน และแนวทางการตรวจสอบคุณภาพข้อมูลฯ ปีงบประมาณ 2555 ร่วมกับ สปสช. ประมาณเดือนธันวาคม -มกราคม1.2 จัดอบรมครู ก โดยให้จังหวัดคัดเลือกผู้เหมาะสมส่งเข้าอบรม จังหวัดละ 2 คน เพื่อทำหน้าที่ให้ความรู้ในการให้รหัสโรคฯ ในระดับจังหวัดต่อไป ประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ๒๕๕๕ 1.3 สนับสนุนและผลักดันให้ทุกจังหวัดสอบวัดความรู้เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการในระดับปฐมภูมิทุกคน เพื่อจะได้จัดกลุ่มจัดอบรมได้ตรงตามความต้องการ จะดำเนินการสำรวจและทำทะเบียนไว้แฟ้มข้อมูลที่เพิ่มใหม่ในปีงบประมาณ 2555กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศให้มีการจัดเก็บฐานข้อมูลการให้บริการผู้ป่วยนอก การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จาก 18 แฟ้มมาตรฐาน เป็น 21 แฟ้มมาตรฐาน โดยเพิ่มแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับการคัดกรองโรคเรื้อรัง ได้แก่ เบาหวาน และความดันโลหิต จำนวน 3 แฟ้ม ได้แก่ 1) NCDSCREEN 2) CHRONICFU 3) LABFU1. NCDSCREEN (หน้า 27) -ข้อมูลการให้บริการคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง สำหรับผู้ที่มารับบริการ และ ประวัติการได้รับบริการคัดกรองโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ในกลุ่มเป้าหมายอายุ 15 ปีขึ้นไป ทั้งในรพ.และสถานบริการระดับปฐมภูมิ ทั้งในและนอกสถานพยาบาล ทั้งที่อาศัยในเขตและนอกเขตรับผิดชอบ -ข้อมูลที่สถานพยาบาลอื่นให้บริการกับประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่อาศัยในเขตรับผิดชอบ เป็นการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินความครอบคลุมกรณีโรงพยาบาล เขตรับผิดชอบ หมายถึง ตำบลที่ตั้งของโรงพยาบาล หรือ พื้นที่รับผิดชอบในส่วนของบริการระดับปฐมภูมิลักษณะแฟ้ม เป็นแฟ้มบริการ กำหนดให้ทำการคัดกรองปีละ 1 ครั้ง และจัดส่งข้อมูลทุกครั้งที่มีการคัดกรอง2. CHRONICFU (หน้า 29) ข้อมูลการตรวจติดตามผู้ป่วยโรคเรื้อรัง (เบาหวานและความดันโลหิตสูง) ที่ได้รับการตรวจติดตามโดยโรงพยาบาลหรือสถานบริการระดับปฐมภูมิทุกคน ทั้งที่อาศัยในเขตและนอกเขตรับผิดชอบข้อมูลการตรวจภาวะแทรกซ้อน เป็นการตรวจร่างกาย ได้แก่ การตรวจเท้า ตา หากพบภาวะแทรกซ้อนให้บันทึกในแฟ้ม DIAG_OPD ในส่วนของการวินิจฉัย complicationลักษณะแฟ้ม เป็นแฟ้มบริการ จัดเก็บ/บันทึกข้อมูลทุกครั้งที่ให้บริการ เพื่อติดตามผลการรักษา และส่งข้อมูลให้จังหวัดและส่วนกลางในรอบของเดือนนั้น ๆ3. แฟ้ม LABFU ( หน้า 31) ข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของผู้ป่วยโรคเรื้อรับ (เบาหวานและความดันโลหิตสูง) ที่ได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการโดย รพ. และสถานบริการระดับปฐมภูมิทุกคน ทั้งที่อาศัยในเขตและนอกเขตรับผิดชอบกรณีโรงพยาบาล เขตรับผิดชอบ หมายถึง ตำบลที่ตั้งของโรงพยาบาล หรือพื้นที่รับผิดชอบในส่วนของบริการระดับปฐมภูมิลักษณะแฟ้ม เป็นแฟ้มบริการ จัดเก็บ/บันทึกข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติผู้ป่วยโรคเรื้อรังทุกครั้ง และส่งข้อมูลให้จังหวัดและส่วนกลางภายในรอบของเดือนนั้น ๆการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์1. ใช้ในการบริหารงาน กำกับ ติดตามผลการดำเนินงานด้านสุขภาพ ในระดับประเทศ จังหวัด อำเภอ ตำบล 2. ใช้ในตัดสินใจด้านนโยบายสุขภาพ 3. ใช้ในการประเมินการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในระดับปฐมภูมิ หรือชุมชน 4. เพื่อลดการรายงานของสถานบริการโดยใช้ข้อมูลที่สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์แทน ปัจจุบัน ได้ประมวลสำหรับใช้ในการรายงานการให้บริการวัคซีน, กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ,สำนักทันตสาธารณสุข,สำนักโภชนาการ, กรมควบคุมโรค, กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นต้น5. จัดทำชุดข้อมูล (Data Set Report) ที่ได้จากฐานข้อมูล 21 แฟ้มร่วมกับกรม และหน่วยงานที่กี่ยวข้อง สำหรับใช้ประโยชน์ โดยใช้ข้อมูลจาก สนย. แทนจังหวัด เพื่อลดภาระการรายลง6. ใช้รายงานผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดสำคัญระดับจังหวัด/กรม/กระทรวง ปีงบประมาณ 2555 ตัวอย่าง เช่น..... 6.1 ร้อยละของประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการคัดกรองเบาหวาน โดยการตรวจเลือด (Fasting Capillary Blood Glucose หรือ Fasting Plasma Glucose) ได้จากแฟ้ม NCDSCREEN + PERSON + LABFU 6.2 ร้อยละของประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการตรวจวัดความดันโลหิต ได้จากแฟ้ม NCDSCREEN + PERSON 6.3 ร้อยละของประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปที่ได้รับการคัดกรองโดยการเจาะเลือด แล้วพบว่ามีภาวะ Pre-DM ได้จากแฟ้ม NCDSCREEN + PERSON + LABFU + DIAG 6.4 ร้อยละของประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปที่ได้รับการคัดกรองโดยการเจาะเลือด แล้วพบว่ามีภาวะ DM ได้จากแฟ้ม NCDSCREEN + PERSON + LABFU + DIAG6.5 ร้อยละของประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปที่ได้รับการคัดกรองโดยการเจาะเลือด แล้วพบว่ามีภาวะ Pre-HT ได้จากแฟ้ม NCDSCREEN + PERSON + DIAG 6.6 ร้อยละของประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปที่ได้รับการคัดกรองโดยการเจาะเลือด แล้วพบว่ามีภาวะ HT ได้จากแฟ้ม NCDSCREEN + PERSON + DIAG 6.7 ร้อยละของประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปที่มีภาวะ Pre-DM หรือ DM ที่ได้รับการคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองแล้วพบว่ามีความเสี่ยง ได้จากแฟ้ม NCDSCREEN + PERSON 6.8 ร้อยละของประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปที่มีภาวะ Pre-HT หรือ HT ที่ได้รับการคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองแล้วพบว่ามีความเสี่ยง ได้จากแฟ้ม NCDSCREEN + PERSON6.9 ร้อยละของเด็ก 0 – 5 ปี ที่มีส่วนสูงตามเกณฑ์ ค่อนข้างสูง สูงกว่าเกณฑ์รวมกัน ได้จากแฟ้ม NUTRITION + PERSON 6.10 ร้อยละของเด็ก 0 – 5 ปี ที่มีรูปร่างสมส่วน ได้จากแฟ้ม NUTRITION + PERSON 6.11 ร้อยละของเด็ก 0 – 5 ปี ที่มีน้ำหนักตามเกณฑ์ ได้จากแฟ้ม NUTRITION + PERSON 6.12 ร้อยละของเด็ก 6 – 18 ปี ที่มีส่วนสูงตามเกณฑ์ ค่อนข้างสูง สูงกว่าเกณฑ์รวมกัน ได้จากแฟ้ม NUTRITION + PERSON 6.13 ร้อยละของเด็ก 6 – 18 ปี ที่มีรูปร่างสมส่วน ได้จากแฟ้ม NUTRITION + PERSON 6.14 ร้อยละของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี มีกาวะอ้วน ได้จากแฟ้ม NUTRITION + PERSON5.15 ร้อยละของประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป มีกาวะอ้วน (น้ำหนักเทียบกับส่วนสูงหรือค่า BMI) ได้จากแฟ้ม NUTRITION + PERSON 5.16 ร้อยละของประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป มีกาวะอ้วนลงพุง ได้จากแฟ้ม NUTRITION + PERSON 5.17 ร้อยละของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่ได้รับการชั่งน้ำหนักเทียบกับส่วนสูง ได้จากแฟ้ม NUTRITION + PERSON 5.18 ร้อยละของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการชั่งน้ำหนักเทียบกับส่วนสูง ได้จากแฟ้ม NUTRITION + PERSON 5.19 ร้อยละของประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่ได้รับการวัดรอบเอว ได้จากแฟ้ม NCDSCREEN + PERSON 5.20 ร้อยละของหญิงตั้งครรภ์ได้รับการตรวจครรภ์ 5 ครั้งตามเกณฑ์ ได้จากแฟ้ม ANC + PERSON6.21 ร้อยละของหญิงตั้งครรภ์ ฝากครรภ์ครั้งแรกเมื่ออายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ ได้จากแฟ้ม ANC + PERSON 6.22 ร้อยละของหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ในสถานบริการสาธารณสุข ได้รับการตรวจสุขภาพช่องปาก และได้รับคำแนะนำทางทันตสุขภาพ ได้จากแฟ้ม ANC + MCH + PERSON 6.23 อัตราการตั้งครรภ์ของหญิงอายุ 15 – 19 ปี ได้จากแฟ้ม ANC + PERSON 6.24 อัตราคุมกำเนิดของหญิงวัยเจริญพันธุ์อายุ 15 – 49 ปี ที่อยู่กินกับสามี ได้จากแฟ้ม FP + WOMEN + PERSON 6.25 การออกรายงานตาม Dataset Report สำหรับกรม กอง และหน่วยงานภายในหรือภายนอกกระทรวงสาธารณสุข 6.26 ร้อยละของเด็กอายุครบ 1 ปี ที่ได้รับวัคซีน MMR ในไตรมาสที่รายงาน 6.27 ร้อยละของเด็กอายุครบ 2 ปี ที่ได้รับวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี ครั้งที่ 2 ในไตรมาสที่รายงาน1. เร่งรัดให้มีการบันทึกข้อมูลการบริการผู้ป่วยนอก การบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ครบทุกบริการ ตามมาตรฐานที่กำหนดในโครงสร้างฯ ให้ครอบคลุมสถานบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับและทุกแห่ง 2. วัดความรู้ผู้ให้บริการระดับปฐมภูมิ เพื่อจะได้จัดกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมได้ถูกต้องตรงตามที่ต้องการ 3. จัดทำแผนและฝึกอบรมผู้ให้บริการระดับปฐมภูมิทุกคนให้มีความรู้ และสามารถวินิจฉัยรหัสโรคและให้รหัสโรคได้ถูกต้องตาม ICD-10-TMข้อมูลการบริการผู้ป่วยนอก การบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคมีคุณภาพ สามารถนำไปใช้ในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประชาชนทุกคนมสุขภาพดีสรุปจากที่มาไฟล์ ppt นำเสนอแนวทางการดำเนินงานและการพัฒนาคุณภาพฐานข้อมูลการบริการผู้ป่วยนอก การบริการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันโรครายบุคคล ในรูปแบบ 21 แฟ้มมาตรฐาน ปีงบประมาณ 2555 สำนักโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลักระทรวงสาธารณสุข
ขอบคุณ ลุงหนวด เจ้าของบทความดีๆๆ ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น